ที่จริงเรื่องนี้พูดยากมากเลย นักเรียนของครูหลายคน ฝึกโยคะกลับไปบ้านก็หลับปุ๋ย โดยเฉพาะคลาสแอ๊ดว๊านซ์ คนกลุ่มนี้ ใช้เวลาสองชั่วโมงต่อเนื่องในการเคลื่อนไหว เอ็น ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ มันก็เหมือนเป็นการเอารถเข้าศูนย์ ตรวจเช็คทุกส่วนของร่างกาย และเหนื่อยพอสมควร ทำให้กลับไปบ้านก็หลับปุ๋ยสบายตัว
แต่ก็มีบางคนไม่
ครูไม่กล้ารับประกันหรอกว่ามันมีอาสนะไหน ช่วยให้หลับง่าย มันมีแต่ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าทุกคน เพราะปัญหาการนอนหลับเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน
หากการนอนไม่หลับนั้นเกิดจากความไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว ความปวดเมื่อย ถ้าเราได้ฝึกโยคะ ได้ดัด ได้ยืด และคลายกล้ามเนื้อก่อนนอนก็ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น
แต่หากปัญหาการนอนไม่หลับเกิดจากความเครียด ความกังวล ถ้าเป็นแบบนั้น คงช่วยยากนะคะ เราต้องแก้ปัญหาที่ความเครียด อาจทำสมาธิ และปล่อยวางเสียบ้าง คิดว่ายังไงซะ พวกเราเนี่ยคือสิ่งชั่วคราวเกิดประมาณ 100 ปี ขาดเกินไม่มาก เราก็ต้องจากโลกนี้ไป เราจึงไม่จำเป็นต้องไปยึดมั่นถือมั่นอะไรมากนัก
ถ้าลองฝึกโยคะแล้วยังนอนไม่หลับ ครูคงแนะนำให้ฝึกสมาธิเพิ่ม และเพื่อให้เป็นสมาธิจริง ๆ ไม่ควรเป็นชนิดหลับตาแล้วนั่งนิ่งๆ เพราะบางคนที่เครียด มีพื้นฐานเป็นคนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย เป็นทาสอดีต ชอบคิดเรื่องเก่า ๆ คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้ว การหลับตา อาจทำให้จิตใจ ยิ่งฟุ้งซ่านคิดมากไปต่างๆ นานา เข้าไปใหญ่
ครูขอแนะนำให้ทำสมาธิชนิดที่มีการกำหนดจิต เช่น การเดินจงกรม 6 ระยะ โดยเริ่มจากระยะที่ 1 2 3 และไล่ไปเรื่อยๆ ค่อย ๆ กำหนดจิตไว้กับทุกอย่างก้าว กำหนดสติ ให้ทัน ตามจิตให้ทัน รู้ตัวทั่วพร้อมในทุกอิริยาบท ยกส้นเท้ารู้ ยกเท้ารู้ ย่างขารู้ วางขาลงรู้ เหยียบลงพื้นรู้ การฝึกในลักษณะนี้จะช่วยให้จิตอยู่กับร่างกาย ใจไม่ไปที่อื่น ไม่คิดเรื่องอื่น ทำให้เราเอาใจไว้กับปัจจุบัน และเมื่อเราเดินไปสักพัก เราจะลืมเรื่องที่คาใจ ลืมเรื่องที่ทำให้เรากังวล เราจะรู้สึกสมองปลอดโปร่ง โล่ง และเมื่อโล่งก็รีบเข้านอนซะ อย่าทิ้งไว้นาน เดี๋ยวจิตฟุ้งซ่านมันจะกลับมาอีก (แต่ถ้ามันกลับมาอีกก็เดินจงกรมอีก)
ส่วนวิธีการฝึก ให้ดูในหนังสือ สมาธิแม่เอ๊ย ครูได้เขียนวิธีกำหนดจิต อย่างละเอียดไว้ทั้ง 6 ระยะ ตั้งแต่ง่ายสุด จนถึงระยะที่ละเอียดที่สุด แต่ที่แน่ ๆ อย่าใช้ยานอนหลับเด็ดขาด เพราะนั่นจะทำให้เราติด และนอนหลับยากขึ้น พวกยานี่นะ ถ้าไม่เจ็บป่วยอะไรมาก ๆ ถ้าไม่ใช่โรคที่มีเชื้อโรคที่ต้องใช้ยาฆ่าจริง ๆ แล้วละก็ ไม่จำเป็นอย่ากิน เพราะยาทุกตัวมีผลต่อตับ ทำให้ตับต้องกำจัดมันออกไป ลำพังวัน ๆ ตับมันก็ทำงานหนักอยู่แล้ว เพราะอาหารการกินสมัยนี้เป็นสารเคมีอันตรายเสียมาก ผักที่มีสารพิษ และสารปนเปื้อนต่าง ๆ ที่เรากินเข้าไปกับอาหาร แค่นี้ตับก็ทำงานหนักอยู่แล้ว อย่าไปซ้ำเติมมันอีกเลย ยาที่นาน ๆ กินทีไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่พวกยาที่กินเรื่อย ๆ กินเป็นประจำ มันจะทำให้ตับทำงานหนัก และส่งผลเสียในระยะยาว ยังไงก็นอนก็ไม่หลับอยู่ดี ดังนั้น ใครที่คิดกินยานอนหลับ อย่าเลย อย่าหาเรื่อง เดินจงกรมกันเหอะ เสียเงินค่าหนังสือสมาธิ เล่มเดียว ไม่ต้องไปเสียค่ายาที่ติด และไม่ต้องเสียตับ